กำจัดกระดาษ ยังไงได้บ้าง? เชื่อว่าในการทำงานที่ออฟฟิศ เรามักจะต้องจัดการเกี่ยวกับเอกสาร หรือการปริ้นงานหลายอย่างส่งให้ลูกค้า จนก่อให้เกิดเป็นกองเอกสารมากมาย หากไม่ได้ใช้แล้วก็อาจจะเป็นการเก็บไว้รกบริษัทซะเปล่า ๆ แล้วรู้กันหรือไม่ว่าการใช้กระดาษเยอะ ๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โลกร้อนด้วยเช่นกัน
เชื่อว่าการทำงานในทุกวันของชาวออฟฟิศนั้น แทบจะเป็นศูนย์รวมของเอกสาร และกระดาษมักเป็นสิ่งที่ถูกเผลอใช้ไปอย่างไม่รอบคอบ จนทำให้สิ้นเปลืองไปเช่นกัน ในประเทศไทย 1 คนใช้กระดาษ 60 กิโลกรัมต่อปีโดยเฉลี่ยกลายเป็นขยะทั้งหมด 3.9 ล้านตัน เท่ากับการใช้กระดาษ A4 ทั้งหมดกว่า 780,000 ล้านแผ่น ซึ่งผลที่ตามมานั้นหมายถึง กระดาษจำนวนมหาศาลที่กลายเป็นขยะหลังการใช้งาน
ซึ่งนอกจากขยะหลังการใช้งานที่ล้น จนเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว การที่จะผลิตกระดาษ 1 ตันนั้น ต้องใช้ต้นไม้ถึง 17 ต้น! อีกทั้งยังมีก๊าซเรือนกระจก ที่ถูกปล่อยออกมาจากกระบวนการผลิต การใช้ทรัพยากรน้ำและไฟในการผลิตและฟอกกระดาษอีกด้วย หากต้องโค่นต้นไม้มาใช้ทำกระดาษที่ถูกใช้แบบสิ้นเปลืองเรื่อย ๆ ก็จะยิ่งทำให้เราสูญเสียต้นไม้ ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เฉลี่ยถึง 25 กิโลกรัม CO2 ต่อปี
ในยุคปัจจุบันที่ทุกคนเริ่มตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วม ส่งผลให้ออฟฟิศต่าง ๆ เริ่มมีนโยบายในการลดการใช้กระดาษ ประหยัดพลังงานและมาตรการต่าง ๆ ที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะนอกจากจะได้ผลดีต่อองค์กรในด้านประหยัดค่ากระดาษ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่องพิมพ์ ตลอดจนค่าหมึกพิมพ์ ที่นับวันจะมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรอีกด้วย
แล้วจะทำอย่างไรให้สามารถลดปริมาณขยะกระดาษ?
กำจัดกระดาษ ด้วยแนวคิดง่ายๆก็คือหลักพื้นฐาน 3R ดังนี้
1.Reduce
วิธีที่สำคัญที่สุดคงต้องย้อนกลับมาแก้ที่ต้นตอของปัญหา ก็คือการลดการสร้างขยะ โดยเริ่มต้นลดการสร้างขยะโดยไม่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวันแบบที่สามารถทำได้ง่ายๆ แต่สร้างผลลัพธ์ได้จริง คือ ลดการใช้ แม้ว่าขยะจากกระดาษจะเป็นปัญหา แต่เราต่างปฏิเสธไม่ได้ว่ากระดาษยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ยังต้องใช้อยู่ เพราะกระดาษอยู่กับเราในหลากหลายกิจกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นควรลดการใช้กระดาษที่ไม่จำเป็น ด้วยการใช้กระดาษเท่าที่จำเป็น และเลือกส่งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้มากขึ้น เช่น ส่งอีเมลแทนการส่งจดหมาย หรือจะใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ในการสื่อสาร เปลี่ยนไปใช้แท็บเลตในการทำงานแทนการใช้กระดาษ คือส่วนสำคัญที่จะช่วยลดขยะจากการใช้กระดาษในออฟฟิศได้ เป็นการช่วยรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติได้อย่างมาก และเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับองค์กรไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย
2. Reuse
การใช้ซ้ำ ใช้กระดาษให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่นใช้กระดาษให้ครบทั้งสองหน้า ซึ่งองค์กรส่วนใหญ่ก็คงปฏิบัติกันอยู่แล้วเป็น วิธีลดการใช้กระดาษในสํานักงานเช่น นำกระดาษที่มีหน้าว่างเหลือมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เช่นสำหรับจดบันทึกต่างๆ
นอกจากการใช้กระดาษทั้งสองหน้าแล้ว ก็ยังมีการใช้กระดาษหน้าที่สาม คือการนำกระดาษที่มีการใช้แล้วจากการใช้กระดาษสองหน้า นำไปบริจาคให้สำหรับทำหนังสือคนตาบอด ใช้พิมพ์อักษรพิเศษ อักษรเบล เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีวิธีการใช้ประโยชน์จากกระดาษที่ใช้งานแล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุดแบบง่ายๆ อีกหลายวิธี เช่นการนำไปเป็นฐานรองโต๊ะที่โครงเครงได้ ใช้ในการเช็ดกระจก หรือเอาไปทำกิจกรรมสันทนาการ นำไปบริจาคเพื่อให้เด็กๆฝึกพับกระดาษสร้างสรรค์ หรือจะเป็นการนำกระดาษไปตัดเป็นฝอยแล้วนำมาใส่ในกล่องพัสดุเพื่อใช้ในการกันกระแทกได้อีกด้วย
3. Recycle
คือการนำกระดาษที่ไม่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้ ไปผ่านกระบวนการแปรรูปหรือการรีไซเคิล โดยขั้นตอนที่เราทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆก็คือ แยกขยะกระดาษที่เสียหาย เปียกน้ำ หรือฉีกขาดออกจากระดาษที่สภาพดี เพื่อง่ายต่อกระบวนการรีไซเคิลและช่วยให้ได้คุณภาพของผลลัพธ์การรีไซเคิลกระดาษที่ดี
และนอกจากการแยกขยะกระดาษเพื่อนำไปรีไซเคิลแล้ว การเลือกใช้กระดาษที่มาจากการรีไซเคิลก็เป็นการช่วยลดทรัพยากรธรรมชาติได้เป็นอย่างดี รวมถึงการช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน ลดปริมาณการเผาไหม้ขยะที่ส่งผลต่อระบบนิเวศ และยังเป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายอีกด้วย โดยทั่วไปแล้ว กระดาษรีไซเคิลจะถูกนำมาผลิตเป็นสีขาวนวล ครีม เหลือง น้ำตาล จนถึงน้ำตาลทองที่พบเจอได้ทั่วไป ตัวอย่างเช่น
วิธีลดขยะกระดาษที่กล่าวไป อาจช่วยลดปริมาณขยะและลดการทำลายสิ่งแวดล้อมได้ไม่มากก็น้อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในชีวิตประจำของเรานั้นยังมีส่วนที่ต้องใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติ และมีส่วนในการทำลายต้นไม้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในส่วนของการใช้กระดาษ หากต้นไม้ถูกตัดไปตอบสนองความต้องการใช้กระดาษมากเท่าไหร่ ตัวช่วยในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มนุษย์ก่อก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น ดังนั้นเราควรปลูกต้นไม้ทดแทนต้นไม้ที่เสียไปในการนำมาใช้สอยผลประโยชน์ เพื่อให้คงสภาพแวดล้อมที่สวยงามและยังคงมีต้นไม้ที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เอาไว้
นอกจากการปลูกต้นไม้ด้วยตัวเราเองแล้ว มีวิธีง่ายๆ ในการปลูกต้นไม้แบบที่ไม่ต้องออกแรงนำต้นไม้ลงดิน สร้างการมีส่วนร่วมในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้โลก แค่ดาวน์โหลด ECOLIFE app แล้วแสกนต้นไม้ใกล้ตัวคุณ ทุกการแสกนต้นไม้ 1 ครั้ง (ที่ใดก็ได้) เท่ากับคุณช่วยปลูกต้นไม้จริง 1 ต้น เพียงเท่านี้ก็ได้เพิ่มต้นไม้ตัวการสำคัญในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ สร้างปอดให้โลกแบบง่าย ๆ แล้ว
ติดตามข้อมูลข่าวสารของ คิดคิด และ ECOLIFE ได้ที่